ขนาดเศรษฐกิจของประเทศสำคัญต่อการทำธุรกิจนำเข้าส่งออกมากมาย เนื่องจากประเทศไหนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ ก็จะมีกำลังซื้อสูง เหมาะแก่การนำสินค้าเข้าไปขาย พูดง่ายๆ ก็คือเป็นประเทศที่เป็นลูกค้ารายใหญ่นั่นเอง วันนี้เราจะมาดูกันว่าประเทศที่เราควรส่งออก เป็นตลาดส่งออกใหม่ของไทยเพราะเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของโลกคือใครกันแน่ 5 ประเทศนี้มีความสำคัญอย่างไร
ถ้าพูดถึงประเทศที่เป็นผู้นำของโลกด้านเศรษฐกิจ เราจะนึกถึงประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นเศรษฐกิจ อันดับ 1 ของโลกอยู่ เนื่องจากมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า หลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศในยุโรปรวมกัน หรือมากกว่าแม้กระทั่งจีนที่มีประชากรมากกว่าเขาอยู่ 3 เท่าด้วยกัน อย่างไรก็ตามเราทราบกันดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก มีการขาดดุลมาตลอด 20 ปี (นำเข้ามากกว่าส่งออก) ซึ่งแปลว่ายิ่งบริโภคมาเท่าไหร่ก็จะยิ่ง มีเงินไหลออกนอกประเทศมากเท่านั้น
เราจะสังเกตได้ว่าสหรัฐเริ่มมีสัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดีมาหลายปีแล้ว และเริ่มการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐเพิ่มไปเรื่อยๆเพราะว่าเงินไม่พอใช้แล้วเอาเงินไปซื้อของต่างประเทศหมด เลยต้องพิมพ์แบงค์ออกมาใช้เพิ่ม ลองคิดดูประเทศที่หาเงินได้จากสหรัฐอย่างเช่น จีน ยุโรป หรือกระทั่งไทย หากเราเก็บเงินดอลลาร์นับวันก็จะยิ่งด้อยค่าลงเรื่อยๆ นั่นเอง
หลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทยก็ไม่คิดว่าสหรัฐจะเป็นตลาดหลักอีกต่อไป จึงลดการพึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐ เนื่องจากว่าเป็นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเปราะบางและไม่มั่นคง ด้วยเหตุผลนี้หลายประเทศต้องหาประเทศที่เป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของโลกซึ่งวันนี้พวกเห็นจะมาแนะนำ 5 ประเทศที่เป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีชื่อว่า BRICS
BRICS เป็นชื่อย่อของ 5 ประเทศ ได้แก่ Brazil, Russia, India, China, South Africa และ 5 ประเทศนี้จะมีลักษณะยังไงเราลองอ่านกันเลยนะครับ
ประเทศเหล่านี้มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก
เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่มาก รัสเซียมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนจีน อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ ก็มีพื้นที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
ขนาดของประเทศที่ใหญ่มาก ทำให้มีทรัพยากรเยอะมาก อย่างน้อยๆ หากไม่ยอมทำงานหรือเศรษฐกิจไม่ดี ก็ยังสามารถขุดเอาทรัพยากรไปขายได้ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
ประเทศเหล่านี้มีประชากรเยอะมาก
จีนมีประชากรทั้งสิ้น 1,400 ล้านคน อินเดียก็มีอีก 1,300 ล้านคน บราซิล 210 ล้านคน รัสเซีย 140 ล้านคน แอฟริกาใต้ 60 ล้านคน (ข้อมูลจาก https://www.worldometers.info/world-population/population-by-country/)
ประเทศที่มีประชากรเยอะแปลว่าเป็นประเทศที่มีความต้องการสูง ลองนึกภาพ สมมติเราทำธุรกิจอย่างหนึ่งเป็น Application ให้คนดาวน์โหลด ถ้าทำในไทยก็จะมีคนโหลดทั่วประเทศ ประมาณ 60 ล้านคน แต่ถ้าทำในจีน ก็จะมีคนดังทั่วประเทศประมาณ 1,200 ล้านคน ซึ่งแปลว่าหากเราทำธุรกิจในจีนก็น่าจะมีจำนวนลูกค้าเยอะกว่า และจะรวยกว่าทำธุรกิจในไทยนั่นเอง
ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต
ประเทศอินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้เป็นประเทศคนหนุ่มมีผู้สูงวัยน้อย หรืออยู่ในระดับที่เป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ซึ่งแปลว่าในประชากรส่วนใหญ่มีแต่กลุ่มอยู่ในวัยทำงาน เมื่อมีการทำงานเขาก็จะมีรายได้ และเมื่อมีรายได้ ก็จะใช้เงินไปกับหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน สร้างครอบครัว ต้องการมีลูก เมื่อมีลูกก็ต้องมีการใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก เมื่อมีการใช้จ่ายเพิ่มเติม การหมุนเวียนของเงินเยอะขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นนั่นเอง
ประเทศเหล่านี้มีการเปิดรับจากการค้าระหว่างประเทศสูงมาก
ตลาดจีนเราคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว เพราะเป็นประเทศที่ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก รัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่สามารถขุดเจาะก๊าซธรรมชาติน้ำมันและทรัพยากรต่างๆ ได้เอง ก็ต้องการค้าขายไปทั่วโลกโดย เอาทรัพยากรที่ตัวเองมีไปแลกกับของกินของใช้ เสื้อผ้า อาหาร ที่จะเอามาใช้ในการดำรงชีวิต จึงต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับต่างประเทศเยอะมาก นี่ยังไม่นับบราซิล กับแอฟริกาใต้ซึ่งอยู่ใน พื้นที่ชัยภูมิที่ต้องมีการเดินเรือหรือว่าติดต่อกับต่างประเทศตลอดเวลา ในส่วนของอินเดียนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้เน้นการนำเข้าส่งออกเป็นหลัก แต่ตอนนี้ต้องการให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศอินเดียเพื่อเป็นการสร้างงานและสร้างเศรษฐกิจให้โตในประเทศ
สัญลักษณ์ของการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ถ้าได้ลองสังเกตดีๆ เราจะพบว่าประเทศเหล่านี้ล้วนแต่เคยผ่านการจัดงานยิ่งใหญ่มาแล้วทั้งสิ้น
จีนเคยจัดโอลิมปิคปี 2008 แอฟริกาใต้จัดฟุตบอลโลกปี 2010 บราซิลจัดฟุตบอลโลกปี 2014 รัสเซียก็เคยจัดบอลโลกปี 2018 มาแล้ว ประเทศที่ได้รับการจัดมหกรรมกีฬานั้น มักจะเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงว่าประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นเศรษฐกิจตัวใหม่ของโลกนั่นเองครับ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมประเทศเหล่านี้ถึงจะกลายเป็นเศรษฐกิจตัวถัดไปของโลก เราอาจจะต้องดีใจไว้อย่างหนึ่งว่าเศรษฐกิจของโลกไม่ได้พึ่งพาแค่ประเทศใดประเทศใดประเทศหนึ่งไปแล้ว ตอนนี้กระจายกันอยู่ครบทุกทวีปเลยว่าจะเป็นยุโรป เอเชียแอฟริกา หรือแม้กระทั่งทวีปอเมริกา ซึ่งเราคาดหวังว่าอนาคตเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามก็มีนักวิเคราะห์หลายคนได้ประเมินว่าเศรษฐกิจของโลกอาจจะมีการเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วก็เศรษฐกิจล่มสลายเร็วขึ้นกว่าทุกที เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโลกจะเกิดขึ้นเร็วมาก ซึ่งเราก็ต้องทำใจและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ไว้
หากใครทำนำเข้าส่งออกแล้วต้องการ เจาะตลาดกลุ่มนี้สามารถสอบถามได้นะครับตามลิงค์ด้านล่างนี้เลย